SUPRANEE

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554













บุรีรัมย์PEA


รังเหย้าใหม่ทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ที่จะใช้เป็นสนามเหย้าถาวรของสโมสรที่ จ.บุรีรัมย์ คาดเป็นสนามที่จะใช้งบประมาณในการก่อสร้างมหาศาล ราวเกือบ 500 ล้านบาท คาดปี 2554 หรือ 2555 เริ่มก่อสร้างแน่นอน ใช้ชื่อสนาม "ปราสาทสายฟ้า" วินิจ เลิศรัตนชัย มือบริหารด้านการตลาดประจำทีม การันตีนัดเหย้า จะมีแฟนบอลเข้าไปชมทะลุหลักหมื่นทุกนัดชัวร์ ล่าสุดนักเตะแซมบ้าบราซิลจ่อคิวบินมาทดสอบฝีเท้าด้วยอีกหลายรายแล้ว

ความเคลื่อนไหวของทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์-พีอีเอ ที่เตรียมจะเปิดตัวสโมสรอย่างเป็นทางการ วันพุธที่ 3 ก.พ. นี้ พร้อมกับลงอุ่นเครื่องกับทีม ฮาเลลูย่า ที่สนาม มรภ. บุรีรัมย์ เวลา 15.30 น. นั้นล่าสุด วินิจ เลิศรัตนชัย ที่จะเข้าไปดูแลเรื่องการตลาด, ประชาสัมพันธ์ให้กับทีมได้ออกมาเปิดเผยกับสยามกีฬาว่า

"สำหรับฤดูกาลนี้ เราจะใช้สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม หรือ สนาม อบจ. บุรีรัมย์ เป็นสนามเหย้าไปก่อน โดยขณะนี้การปรับปรุงต่อเติม เพื่อให้รองรับแฟนบอลได้ราว 1.2 หมื่น คนใกล้จะแล้วเสร็จ ส่วนอนาคตนั้น ท่านประธานสโมสร คุณเนวิน ชิดชอบ พร้อมจะสร้างสนามขึ้นมาใหม่ เป็นสนามของสโมสรเองโดยจะใช้ชื่อสนามว่า "ปราสาทสายฟ้า" หรือ ธันเดอร์ คาสเติล สเตเดี้ยม โดยคาดว่า จะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 54 หรือ ไม่ก็ไม่เกินปี 55 คาดว่างบประมาณที่จะใช้ก่อสร้างนั้น น่าจะไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท โดยจะสามารถรองรับแฟนบอลได้ไม่น้อยกว่า 2.5 หมื่นคน"


ขอชื่นชมกองเชียร์บุรีรัมย์ PEA ทุกคนในแมตช์ที่แข่งกับเมืองทองในวันนี้เลยค่ะ ทั้งพลังเสียงเชียร์พวกคุณที่เสียงดังและพร้อมเพรียงกันมาก ทั้งสีสันในการเชียร์ต่างๆ มีทาสีมาทั้งตัว เตรียมใบแดงมาชูกันในสนาม ตลอดการเชียร์ทั้งเกมส์ก็สนุกสนานและเป็นไปอย่างเรียบร้อย พวกคุณเตรียมการเชียร์มาอย่างดีเยี่ยมมากค่ะ ขอชื่นชมจากใจและขอบคุณค่ะที่มาสร้างบรรยากาศสุดยอดให้กับยามาฮ่าสเตเดี้ยม




นักรบประสาทสายฟ้า




กองเชียร์ฮาร์ดคอบุรีรัมย์PEA






ผู้เล่น&ผู้ฝึกสอน

หมายเลข
ตำแหน่ง ผู้เล่น
1 ธงชาติของไทย GK อัมรินทร์ เยาว์ดำ
2 ธงชาติของไทย DF ธีราธร บุญมาทัน
3 ธงชาติของบราซิล DF ราฟาเอล ซูซ่า
4 ธงชาติของไทย DF ไพรัช ทับเกตุแก้ว
5 ธงชาติของแคเมอรูน DF เอควาล่า เออร์มาน
6 ธงชาติของไทย MF จักรพันธ์ แก้วพรหม
7 ธงชาติของไทย MF รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชติ
8 ธงชาติของไทย MF สุเชาว์ นุชนุ่ม
10 ธงชาติของไทย FW กีรติ เขียวสมบัติ
11 ธงชาติของไทย DF อภิเชษฐ์ พุฒตาล Captain sports.svg

หมายเลข
ตำแหน่ง ผู้เล่น
12 ธงชาติของไทย MF ชารีฟ สายนุ้ย
14 ธงชาติของแคเมอรูน MF ฟร้อง โอแฮนด์ซ่า
15 ธงชาติของไทย DF ไกรเกียรติ เบียดตะคุ
18 ธงชาติของไทย GK ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
20 ธงชาติของแคเมอรูน MF โอบาม่า ฟลอรองต์
22 ธงชาติของไทย FW อดิศักดิ์ ไกรสร
25 ธงชาติของไทย GK กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ
28 ธงชาติของบราซิล DF แอนเดอร์สัน
30 ธงชาติของกานา FW ฟร้อง อาเชียงปง
33 ธงชาติของไทย MF ยุทธจักร ก้อนจันทร์









รายชื่อผู้ฝึกสอน (2550 - ปัจจุบัน)

ชื่อ สัญชาติ ระยะเวลา ความสำเร็จ
โชเซ่ อัลเวส เบอร์วิส ธงชาติของบราซิล 2550
ประพล พงษ์พาณิชย์ ธงชาติของไทย 2551-2552 แชมป์ ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก2551
ทองสุข สัมปหังสิต ธงชาติของไทย พฤษภาคม 2552-พฤศจิกายน 2552
ธนเดช ฟูประเสริฐ ธงชาติของไทย พฤศจิกายน 2552-เมษายน 2553
อรรถพล บุษปาคม ธงชาติของไทย เมษายน 2553-ปัจจุบัน


สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์PEA




สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์-การไฟฟ้าฯ เป็นสโมสรใหม่ที่เปลี่ยนแปลงมาจากสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 โดยดร.วีระ ปิตรชาติ มีเป้าหมายเพื่อให้พนักงานได้ออกกำลังกายและสร้างความสามัคคีร่วมกันในหมู่คณะ
ต่อมาในปีพ.ศ. 2535 สโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ง. โดยลงเล่น3ฤดูกาลก็ได้เลื่อนขึ้นไปเล่นในถ้วย ค. และลงเล่นอยู่2ฤดูกาลก็ได้เลื่อนขึ้นไปเล่นถ้วย ข. และอีก2ฤดูกาลสโมสรก็สามารถเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในดิวิชั่น 1ได้สำเร็จ
หลังจากลงเล่นในดิวิชั่น 1อยู่นานสโมสรก็ได้เลื่อนขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้สำเร็จเป็นครั้งแรก เมื่อได้รองแชมป์ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2547 และได้เล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2548 โดยฤดูกาลแรกในลีกสูงสุดสโมสรสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อได้ตำแหน่งรองแชมป์ และศุภกิจ จินะใจกองหน้าของทีมก็คว้าตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับศรายุทธ ชัยคำดี กองหน้าของทีมการท่าเรือ ที่จำนวน10ประตู และยังได้เล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาล2549อีกด้วย
ฤดูกาล2551 สโมสรสามารถคว้าแชมป์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของประพล พงษ์พาณิชย์และได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือก ในฤดูกาล2552
ฤดูกาล 2552 สโมสรตกรอบคัดเลือกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกทำให้ไม่สามารถเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มได้ และมีผลงานในลีกไม่ดีนัก สโมสรจึงได้เปลี่ยนตัวกุนซือในเดือนพฤษภาคม ปี 2552 จากประพล พงษ์พาณิชย์เป็นทองสุข สัมปหังสิตอดีตกุนซือทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ ที่นครราชสีมา
ภายหลังฤดูกาล 2552 ซึ่งทีมมีผลงานจบในอันดับที่ 9 ทางสโมสรได้ตกลงที่จะย้ายสนามแข่งจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงชื่อทีม เป็น บุรีรัมย์-การไฟฟ้าฯ จากการเข้าครอบครองอำนาจบริหารสโมสรของ นายเนวิน ชิดชอบ นักการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทำการเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหารทั้งหมด พร้อมกันนั้นทีมผู้ฝึกสอนก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในบางส่วนด้วยเช่นกัน
การเข้ามาของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ ส่งผลให้มีการปรับปรุง และพัฒนาทีม อย่างมาก มีการนำระบบบริหารจัดการสโมสรฟุตบอลอาชีพ เข้ามาใช้กับบริษัท เช่น การทำสัญญาจ้างนักฟุตบอล การเจรจา และทำสัญญาซื้อขายนักฟุตบอล ด้วยสัญญามาตรฐาน การสร้างสนามฟุตบอลแห่งใหม่ ตามมาตรฐานของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เพื่อใช้เป็นสนามเหย้า การจัดทำระบบบัญชี การเงิน กฎหมาย การตลาด การโฆษณา และการประชาสัมพันธ์ เต็มรูปแบบ เพื่อสร้างความนิยมให้แก่ทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ และ ความน่าเชื่อถือแก่บริษัท
ผลจากการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการธุรกิจ และพัฒนาทีม อย่างจริงจัง ภายใต้นโยบายของนายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สโมสรคนใหม่ ส่งผลให้ บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นทีมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทยพรีเมียร์ลีก อย่างรวดเร็ว มีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือ แฟนคลับ มากถึง 65,000 คน มีผู้เข้าชมเกมการแข่งขัน นัดละไม่น้อยกว่า 10,000 คน เมื่อเป็นเจ้าบ้าน และเมื่อเป็นทีมเยือน จะมีแฟนบอล ติดตามไปชมไม่น้อยกว่า 1,500 คน อีกทั้งยังเป็นทีมที่สร้างสถิติผู้เข้าชมสูงสุดของไทยพรีเมียร์ลีก คือ 25,000 คน และ สร้างสถิติจำหน่ายของที่ระลึกได้สูงสุด 1,400,000 บาท ภายในวันเดียว คือนัดที่เตะกับเมืองทองยูไนเต็ด เมื่อวันที่ กันยายน 2553

 http://th.wikipedia.org/wiki/